หมวด ๖
ความผิดฐานรับของโจร
มาตรา ๓๕๗ [1]ผู้ใดช่วย[2]ซ่อนเร้น
ช่วย[3]จำหน่าย
ช่วย[4]พาเอาไปเสีย
[5]ซื้อ
รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิด
ถ้าความผิดนั้นเข้าลักษณะลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ กรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์
ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง ยักยอก หรือเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรับของโจร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี
หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดฐานรับของโจรนั้น
ได้กระทำเพื่อค้ากำไรหรือได้กระทำต่อทรัพย์อันได้มาโดยการลักทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๕
(๑๐) ชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี
และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงสองหมื่นบาท
ถ้าการกระทำความผิดฐานรับของโจรนั้น
ได้กระทำต่อทรัพย์อันได้มาโดยการลักทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๕ ทวิ การชิงทรัพย์ตามมาตรา
๓๓๙ ทวิ หรือการปล้นทรัพย์ตามมาตรา ๓๔๐ ทวิ
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี
และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสามหมื่นบาท
[1] ผู้ใด ความผิดฐานรับของโจรต้อง
กระทำโดยบุคคลที่ไม่ใช่ผู้กระทำความผิดในการได้ทรัพย์มา เช่น ผู้ร่วมฉ้อโกง
[2] ซ่อนเร้น
หมายถึง การปกปิดไม่ให้พบเห็นหรือพบเห็นได้ยากขึ้น
การอำพรางดัดแปลงทรัพย์เป็นการซ่อนเร้นได้ เช่น
การช่วยฆ่ากระบือที่ลักมาแล้วนำไปขาย
[3] ช่วยจำหน่าย หมายถึง การให้ทรัพย์พ้นจากผู้ได้ทรัพย์มาโดยการส่งมอบต่อไปไม่ว่าจะมีค่าตอบแทนหรือไม่และไม่ว่าจะรวมถึงการโอนกรรมสิทธิ์
เช่นการติดต่อเรียกและรับค่าไถ่ทรัพย์
[4] หมายความว่าทำให้ทรัพย์เคลื่อนที่ไปจากที่เดิม
พ้นไปจากความยึดถือครอบครองเดิม
[5] ซื้อ
หมายความว่า รับทรัพย์ที่เป็นของโจร โดยมีค่าตอบแทน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น