มาตรา ๒๑๐ ผู้ใด[1]สมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป
เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค ๒ นี้
และความผิดนั้นมีกำหนดโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไป
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี
หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าเป็นการสมคบเพื่อกระทำความผิด ที่มีระวางโทษถึงประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต
หรือจำคุกอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไป
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี
และปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสองหมื่นบาท
[1] สมคบ
ต้องมีการแสดงออกซึ่งความตกลงในการกระทำความผิดร่วมกัน มิใช่เพียงแต่มาร่วมประชุมโดยมิได้ตกลงกันเลย(ฎ๒๘๒๙/๒๖)
,ความผิดสำเร็จเมื่อได้สมคบกัน ไม่จำต้องได้ลงมือกระทำตามที่สมคบกันก่อน
หากมีการกระทำตามที่สมคบก็เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายบท,ถ้ามีการสมคบกันหลายครั้ง
หากไม่ร่วมการประชุมครั้งหลังไม่ผิดช่องโจรครั้งหลัง ฎีกา ๒๙๐๕/๔๓
จำเลยสองคนทำทีไปเช่าที่ดินและร่วมกับพวกอีก๕คนไปดื่มน้ำผสมของมึนเมา
ไปถอนเงินและยืนไปเล่นการพนันจนเงินหมด ถือว่าสมคบกระทำความผิดฐานฉ้อโกง
และผิดช่องโจร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น