วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ม.๘๓


มาตรา ๘๓  ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่[1]ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น



[1] หลักตัวการ
๑.เป็นการกระทำผิดโดยเจตนา
๑.๑เป็นการกระทำผิดหมายความว่าหากเป็นการกระทำไม่เป็นความผิด ผู้ร่วมกระทำก็ไม่เป็นตัวการ เช่นช่วยจับขา โดยหญิงยอมให้ร่วมประเวณีโดยสมัครใจ
๑.๒หากกระทำนั้นได้กระทำไม่ถึงขั้นกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด ก็ไม่เป็นตัวการ
๒.ในระหว่างบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป
ผู้กระทำผิดต้องเป็นบุคคล และอาจเป็นบุคคลธรรมดาร่วมกับนิติบุคคลก็ได้
๓.โดยมีการกระทำร่วมกัน ในขณะกระทำความผิด
คำว่าร่วมกันกระทำความผิดมีหลายกรณีดังนี้
๓.๑ โดยมีการร่วมกันทำในขณะกระทำความผิด หมายถึง การร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำทั้งหมดที่ร่วมกันเป็นความผิด และผู้กระทำแต่ละคนได้กระทำถึงขั้นเป็นความผิดในตนเอง
ประเด็น เมื่อการกระทำเป็นการร่วมเป็นตัวการแล้ว การกระทำของผู้ร่วมกระทำบางคนไม่ถึงขั้นเกิดผล ผู้กระทำนั้นต้องรับผิดชอบในผลบั้นปลายที่เกิดจากการกระทำของบุคคลอื่นด้วย เช่น ร่วมกันไปทำร้ายคนหนึ่งต่อย อีกคนฟันเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายได้รับอันตรายสาหัส  คนต่อยเป็นตัวการในความรับผิดสาหัส
๓.๒ การแบ่งหน้าที่กันทำ หมายความว่า ผู้ร่วมกระทำคนหนี่งลงมือกระทำการอันเป็นความผิดในตนเอง ในขณะที่ผู้ร่วมกระทำอีกคนหนึ่งได้ทำหน้าที่อย่างอื่น ๆ ซึ่ง โดยสภาพไม่เป็นความผิดในตนเอง เช่นคอยดูต้นทาง คอยแจ้งสัญญาณอันตราย คอยรับผู้กระทำความผิด และไม่จำต้องอยู่ในที่เดียวกับผู้ลงมือกระทำความผิด (ระวังหากอยู่ห่างมากไม่ถือเป็นตัวการแต่เป็นผู้สนับสนุน)
๓.๓ การอยู่ร่วมหรือใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุในลักษณะที่พร้อมจะช่วยเหลือกันได้ทันที
-การอยู่ในที่เกิดเหตุ ในลักษณะที่พร้อมให้ความช่วยเหลือกันได้ทันที
๓.๔ การอยู่ร่วมกันในที่เกิดเหตุและก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด
หมายความว่า การอยู่ร่วมกันในที่เกิดเหตุและก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด อาจเป็นตัวการหรือผู้ใช้ก็ได้ การที่เป็นตัวการจะต้องได้ความว่าการอยู่ในที่เกิดเหตุต้องอยู่ในลักษณะให้ความช่วยเหลือด้วยตนเองให้การกระทำความผิดสำเร็จ ถ้าหากจำเป็นต้องช่วย ไม่อย่างนั้นเป็นผู้ใช้
คำว่าร่วมกันขณะกระทำความผิด หมายความว่า  ร่วมขณะกระทำความผิดซึ่งได้แก่ช่วงเวลาตั้งแต่ ลงมือ กระทำความผิดซึ่งเข้าขั้นพยายามกระทำ หรือตระเตรียมกรณีการตระเตรียมเป็นความผิด ยุติเมื่อการกระทำร่วมกันสิ้นสุด เช่น ร่วมกันไปทำร้าย เมื่อทำร้ายไปเห็นว่ารุนแรงเกิน เข้าห้ามการร่วมกันก็สิ้นสุด

๔.โดยมีเจตนากระทำร่วมกัน  ในขณะกระทำความผิด
หมายความว่า ผู้กระทำการร่วมกันนั้น ต้องรู้ถึงการกระทำของกันและกันและต่างต้องประสงค์ถือเอาการกระทำของแต่ละคนเป็นการกระทำของตนด้วย กล่าวคือ มุ่งหมายให้ความผิดนั้นสำเร็จดุจทำด้วยตนเอง ถึงแม้มิได้ลงมือด้วยตนเอง ดังนั้นหากตกลงไปลักทรัพย์คนหนึ่งออกมาก่อน  อีกคนลักต่อเจ้าทรัพย์ตื่นยิงเจ้าทรัพย์ตาย คนออกมาก่อนไม่ต้องรับผิดฐานชิง
ข้อสังเกต หากมีการร่วมกระทำเป็นตัวการแล้ว หากมีผลบั้นปลายเกิดต้องรับผิดทุกคนแม้ไม่มีเจตนาทุกคนเช่น  แดงตกลงกับดำร่วมกันไปทำร้ายขาว  แดงดูต้นทาง ดำตีหัว ขาวล้มลงหัวกระแทกพื้นตาย  แดงและดำผิดทำร้ายเป็นเหตุให้ตาย ๒๙๐
แนวฎีกา
๑.ความผิดที่ต้องอาศัยคุณสมบัติของผู้กระทำความผิดเป็นองค์ประกอบ  จะเป็นตัวการร่วมไม่ได้เป็นได้แต่เพียงผู้สนับสนุน เช่นความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงาน ราษฎรเป็นตัวการร่วมกับเจ้าพนักงานไม่ได้เป็นได้เพียงผู้สนับสนุน  เช่นความผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอก ราษฎรร่วมด้วยไม่เป็นตัวการเป็นเพียงผู้สสนับสนุน ,ความผิดฐานหญิงใดทำให้ตนแท้งลูก ,ความผิดฐานเสพเฮโรอิน  ประเด็นต้องพิจารณาเพิ่มเติม
๑.๑ ความผิดฐานยักยอกมิใช่ความผิดเฉพาะตัวของผู้ครอบครองทรัพย์เท่านั้น  ผู้อื่นก็ร่วมกระทำความผิดกับผู้ครอบครองทรัพย์ได้ เช่น ประชาชนร่วมกับผู้จัดการสมุห์บัญชีของธนาคารยักยอกเงินของธนาคาร  เป็นตัวการร่วมตาม ๓๕๒ ได้ แต่ ความผิดฐานผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมไว้วางใจของประชาชนเป็นเหตุเฉพาะตัวไม่ผิดฐานสนับสนุน ๓๕๔ ประกอบ ๘๖
ประเด็นนี้น่าสนใจตรงที่ ๑.ความผิดฐานยักยอกไม่ใช่ความผิดเฉพาะตัวประชาชนเป็นตัวการร่วมได้ แต่๒.ความผิดฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมไว้วางใจของประชาชน เป็นเหตุเฉพาะตัว ไม่เป็นทั้งตัวการและผู้สนับสนุน ซึ่งต่างจากเจ้าพนักงาน
๑.๒ความผิดฐานอาวุธปืนไป ม.๓๗๑ ปกติผู้ยึดถือครอบครองผิด  แต่ถ้าเป็นการสมคบกันไปเพื่อกระทำความผิดอื่นโดยใช้อาวุธก็ผิดฐานเป็นตัวการได้ ๑๕๘๒/๓๑ ป(น่าสนใจและเคยออกสอบ)
๑.๓ ร่วมกันคบคิดจะกระทำชำเราหญิง โดยอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย แม้ไม่ได้กระทำชำเราก็เป็นตัวการ และความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราหญิงก็เป็นตัวการได้ (๒๕๐/๑๐ ป)
๒.ความผิดฐานเสพติดให้โทษประสงค์ลงโทษผู้เสพเข้าร่างกายตนเอง  จำเลยคนฉีดให้คนอื่นไม่ผิดฐานเสพ
พฤติการณ์อย่างไรเรียกว่าได้ร่วมกันกระทำความผิดมาแต่ต้น
๑.เข้าร่วมขณะกระทำความผิด
๒.การะทำอันพึงถือได้ว่าแบ่งหน้าที่กันทำ  เช่น การยืนบังไม่ให้คนเห็นการกระทำความผิด
๓.เป็นการคุมเชิงอยู่ใกล้ ๆ ในลักษณะที่พร้อมจะช่วยเหลือได้ทันที
๔.ประเด็นมีความผิดบางฐาน เช่นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม  หรือความผิดฐานฉ้อโกง เมื่อได้ความว่ามีการร่วมกันกระทำความผิดโดยมีการแบ่งหน้าทีกันทำ แม้ขณะนำเอกสารปลอมไปใช้หรือไปหลอกลวงผู้เสียหาย ผู้กระทำบางคนจะมิได้อยู่ในที่เกิดเหตุก็เป็นตัวการร่วมได้ เช่น จำเลย ๓ คนกู้เงินผู้เสียหายโดยใช้โฉนดปลอมไปค้ำ จำเลยที่ ๑และ๒ ไปทำสัญญาและใช้เอกสารปลอม จำเลยที่ ๓เพียงพาไปพบผู้เสียหาย และอยู่คอยรับส่วนแบ่งเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำ เป็นตัวการร่วมฐานใช้เอกสารปลอมด้วย
๕.อยู่ในที่เกิดเหตุ คอยห้ามผู้อื่นไม่ให้เข้าไปช่วยและหนีไปด้วยกัน
๖.ในการร่วมกันกระทำความผิด หากมีคนหนึ่งคนใดมีเจตนากระทำเกินกว่าที่ร่วมกันกระทำก็ไม่เป็นตัวการ เช่น  มีเจตมาร่วมกันทำร้ายผู้ตาย  แต่ผู้กระทำความผิดคนหนึ่ง เกิดเจตนาฆ่าผู้เสียหายโดยพลัน  ใช้ปืนยิง ผู้กระทำความผิดอื่นไม่ต้องรับผิดในผลที่เกิดขึ้นเพราะมิใช่ผลโดยตรงจากการกระทำของตนผิด ๒๙๕ เท่านั้น  หรือมีเจตนาไปร่วมกันทำร้าย  แต่มีผู้ร่วมกระทำผิดบางคนประสงค์ต่อทรัพย์ผู้เสียหายภายหลัง
๗.ความผิดฐานทำร้านถ้าต่างคนต่างทำร้าย ไม่ได้เกิดจากเจตนาร่วมกัน  ต้องพิจารณาความผิดของจำเลยแต่ละคน ซึ่งหากเป็นการร่วมกันทำร้ายในลักษณะตัวการ ถือว่า การกระทำของผู้กระทำความผิดคนหนึ่งเป็นการกระทำความผิดของคนอื่นด้วย

ถือว่าร่วมกันกระทำ ได้แก่ ๑.วางแผนร่วมกันมาแต่ต้น ๒.ให้การช่วยเหลือหรือพร้อมให้การช่วยเหลือ ๓.แบ่งหน้าที่กันทำ ๔.เจตนาร่วมกัน เช่น ไปด้วยกันส่งมีดให้พูดให้แทงและหลบหนีไปด้วยกัน ,จำเลยสามคนชุ่มตรวจค้นโดยเรียกให้จอดรถผู้เสียหายไม่หยุด ตามไปทำร้ายและข่มขู่อ้างเป็นตำรวจ ใช้อำนาจตรวจค้น แม้จำเลยที่ ๓ จะได้ยืนคุมเชิงและคอยช่วยเหลือแสดงว่ามีเจตนาร่วมกัน ,จำเลยทั้งสามกับพวกมาที่เกิดเหตุด้วยกัน คนที่๑ฟันแฉกหน้าผู้เสียหายที่ ๑ จำเลยที่ ๒ ยิงกระสุนด้าน จำเลยที่ ๓ทุ่มกระถางใส่ผู้เสียหายที่๒ เป็นเจตนาร่วมกันทำร้ายและไม่ได้แบ่งแยกว่าแต่ละคนจะแบ่งแยกกันทำร้ายผู้เสียหายคนใดโดยเจาะจง แต่เป็นเรื่องที่ทั้งสามเจตนายอมรับผลที่เกิดจากการกระทำแต่ละคนเป็นตัวการร่วมทำร้ายผู้เสียหายทั้งสอง,ยอมให้เอาปืนบิดาติดตัวไปและร่วมกันกระทำความผิด ขณะยิงอยู่ใกล้คอยช่วยเหลือ ,ข่มขืนมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ไม่ได้ความว่าร่วมลงมือแต่การที่เปลือยกายอยู่ข้างผู้เสียหาย ถือได้ว่าเป็นตัวการร่วม ,

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น