มาตรา ๘๓
ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่[1]ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ
ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
[1] หลักตัวการ
๑.เป็นการกระทำผิดโดยเจตนา
๑.๑เป็นการกระทำผิดหมายความว่าหากเป็นการกระทำไม่เป็นความผิด
ผู้ร่วมกระทำก็ไม่เป็นตัวการ เช่นช่วยจับขา โดยหญิงยอมให้ร่วมประเวณีโดยสมัครใจ
๑.๒หากกระทำนั้นได้กระทำไม่ถึงขั้นกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด
ก็ไม่เป็นตัวการ
๒.ในระหว่างบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป
ผู้กระทำผิดต้องเป็นบุคคล
และอาจเป็นบุคคลธรรมดาร่วมกับนิติบุคคลก็ได้
๓.โดยมีการกระทำร่วมกัน ในขณะกระทำความผิด
คำว่าร่วมกันกระทำความผิดมีหลายกรณีดังนี้
๓.๑ โดยมีการร่วมกันทำในขณะกระทำความผิด หมายถึง
การร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำทั้งหมดที่ร่วมกันเป็นความผิด และผู้กระทำแต่ละคนได้กระทำถึงขั้นเป็นความผิดในตนเอง
ประเด็น เมื่อการกระทำเป็นการร่วมเป็นตัวการแล้ว
การกระทำของผู้ร่วมกระทำบางคนไม่ถึงขั้นเกิดผล
ผู้กระทำนั้นต้องรับผิดชอบในผลบั้นปลายที่เกิดจากการกระทำของบุคคลอื่นด้วย เช่น
ร่วมกันไปทำร้ายคนหนึ่งต่อย อีกคนฟันเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายได้รับอันตรายสาหัส คนต่อยเป็นตัวการในความรับผิดสาหัส
๓.๒ การแบ่งหน้าที่กันทำ หมายความว่า
ผู้ร่วมกระทำคนหนี่งลงมือกระทำการอันเป็นความผิดในตนเอง
ในขณะที่ผู้ร่วมกระทำอีกคนหนึ่งได้ทำหน้าที่อย่างอื่น ๆ ซึ่ง “โดยสภาพไม่เป็นความผิดในตนเอง” เช่นคอยดูต้นทาง คอยแจ้งสัญญาณอันตราย
คอยรับผู้กระทำความผิด และไม่จำต้องอยู่ในที่เดียวกับผู้ลงมือกระทำความผิด
(ระวังหากอยู่ห่างมากไม่ถือเป็นตัวการแต่เป็นผู้สนับสนุน)
๓.๓
การอยู่ร่วมหรือใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุในลักษณะที่พร้อมจะช่วยเหลือกันได้ทันที
-การอยู่ในที่เกิดเหตุ ในลักษณะที่พร้อมให้ความช่วยเหลือกันได้ทันที
๓.๔ การอยู่ร่วมกันในที่เกิดเหตุและก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด
หมายความว่า
การอยู่ร่วมกันในที่เกิดเหตุและก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด
อาจเป็นตัวการหรือผู้ใช้ก็ได้
การที่เป็นตัวการจะต้องได้ความว่าการอยู่ในที่เกิดเหตุต้องอยู่ในลักษณะให้ความช่วยเหลือด้วยตนเองให้การกระทำความผิดสำเร็จ
ถ้าหากจำเป็นต้องช่วย ไม่อย่างนั้นเป็นผู้ใช้
คำว่าร่วมกันขณะกระทำความผิด หมายความว่า ร่วมขณะกระทำความผิดซึ่งได้แก่ช่วงเวลาตั้งแต่ “ลงมือ” กระทำความผิดซึ่งเข้าขั้นพยายามกระทำ หรือตระเตรียมกรณีการตระเตรียมเป็นความผิด
ยุติเมื่อการกระทำร่วมกันสิ้นสุด เช่น ร่วมกันไปทำร้าย
เมื่อทำร้ายไปเห็นว่ารุนแรงเกิน เข้าห้ามการร่วมกันก็สิ้นสุด
๔.โดยมีเจตนากระทำร่วมกัน
ในขณะกระทำความผิด
หมายความว่า ผู้กระทำการร่วมกันนั้น
ต้องรู้ถึงการกระทำของกันและกันและต่างต้องประสงค์ถือเอาการกระทำของแต่ละคนเป็นการกระทำของตนด้วย
กล่าวคือ มุ่งหมายให้ความผิดนั้นสำเร็จดุจทำด้วยตนเอง ถึงแม้มิได้ลงมือด้วยตนเอง
ดังนั้นหากตกลงไปลักทรัพย์คนหนึ่งออกมาก่อน
อีกคนลักต่อเจ้าทรัพย์ตื่นยิงเจ้าทรัพย์ตาย คนออกมาก่อนไม่ต้องรับผิดฐานชิง
ข้อสังเกต หากมีการร่วมกระทำเป็นตัวการแล้ว
หากมีผลบั้นปลายเกิดต้องรับผิดทุกคนแม้ไม่มีเจตนาทุกคนเช่น แดงตกลงกับดำร่วมกันไปทำร้ายขาว แดงดูต้นทาง ดำตีหัว ขาวล้มลงหัวกระแทกพื้นตาย แดงและดำผิดทำร้ายเป็นเหตุให้ตาย ๒๙๐
แนวฎีกา
๑.ความผิดที่ต้องอาศัยคุณสมบัติของผู้กระทำความผิดเป็นองค์ประกอบ
จะเป็นตัวการร่วมไม่ได้เป็นได้แต่เพียงผู้สนับสนุน
เช่นความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงาน
ราษฎรเป็นตัวการร่วมกับเจ้าพนักงานไม่ได้เป็นได้เพียงผู้สนับสนุน เช่นความผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอก
ราษฎรร่วมด้วยไม่เป็นตัวการเป็นเพียงผู้สสนับสนุน ,ความผิดฐานหญิงใดทำให้ตนแท้งลูก
,ความผิดฐานเสพเฮโรอิน
ประเด็นต้องพิจารณาเพิ่มเติม
๑.๑
ความผิดฐานยักยอกมิใช่ความผิดเฉพาะตัวของผู้ครอบครองทรัพย์เท่านั้น
ผู้อื่นก็ร่วมกระทำความผิดกับผู้ครอบครองทรัพย์ได้ เช่น
ประชาชนร่วมกับผู้จัดการสมุห์บัญชีของธนาคารยักยอกเงินของธนาคาร เป็นตัวการร่วมตาม ๓๕๒ ได้ แต่
ความผิดฐานผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมไว้วางใจของประชาชนเป็นเหตุเฉพาะตัวไม่ผิดฐานสนับสนุน
๓๕๔ ประกอบ ๘๖
ประเด็นนี้น่าสนใจตรงที่
๑.ความผิดฐานยักยอกไม่ใช่ความผิดเฉพาะตัวประชาชนเป็นตัวการร่วมได้
แต่๒.ความผิดฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมไว้วางใจของประชาชน
เป็นเหตุเฉพาะตัว ไม่เป็นทั้งตัวการและผู้สนับสนุน ซึ่งต่างจากเจ้าพนักงาน
๑.๒ความผิดฐานอาวุธปืนไป ม.๓๗๑ ปกติผู้ยึดถือครอบครองผิด
แต่ถ้าเป็นการสมคบกันไปเพื่อกระทำความผิดอื่นโดยใช้อาวุธก็ผิดฐานเป็นตัวการได้
๑๕๘๒/๓๑ ป(น่าสนใจและเคยออกสอบ)
๑.๓ ร่วมกันคบคิดจะกระทำชำเราหญิง โดยอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย
แม้ไม่ได้กระทำชำเราก็เป็นตัวการ
และความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราหญิงก็เป็นตัวการได้ (๒๕๐/๑๐ ป)
๒.ความผิดฐานเสพติดให้โทษประสงค์ลงโทษผู้เสพเข้าร่างกายตนเอง จำเลยคนฉีดให้คนอื่นไม่ผิดฐานเสพ
พฤติการณ์อย่างไรเรียกว่าได้ร่วมกันกระทำความผิดมาแต่ต้น
๑.เข้าร่วมขณะกระทำความผิด
๒.การะทำอันพึงถือได้ว่าแบ่งหน้าที่กันทำ เช่น
การยืนบังไม่ให้คนเห็นการกระทำความผิด
๓.เป็นการคุมเชิงอยู่ใกล้ ๆ ในลักษณะที่พร้อมจะช่วยเหลือได้ทันที
๔.ประเด็นมีความผิดบางฐาน เช่นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม หรือความผิดฐานฉ้อโกง
เมื่อได้ความว่ามีการร่วมกันกระทำความผิดโดยมีการแบ่งหน้าทีกันทำ
แม้ขณะนำเอกสารปลอมไปใช้หรือไปหลอกลวงผู้เสียหาย
ผู้กระทำบางคนจะมิได้อยู่ในที่เกิดเหตุก็เป็นตัวการร่วมได้ เช่น จำเลย ๓
คนกู้เงินผู้เสียหายโดยใช้โฉนดปลอมไปค้ำ จำเลยที่ ๑และ๒ ไปทำสัญญาและใช้เอกสารปลอม
จำเลยที่ ๓เพียงพาไปพบผู้เสียหาย และอยู่คอยรับส่วนแบ่งเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำ
เป็นตัวการร่วมฐานใช้เอกสารปลอมด้วย
๕.อยู่ในที่เกิดเหตุ คอยห้ามผู้อื่นไม่ให้เข้าไปช่วยและหนีไปด้วยกัน
๖.ในการร่วมกันกระทำความผิด หากมีคนหนึ่งคนใดมีเจตนากระทำเกินกว่าที่ร่วมกันกระทำก็ไม่เป็นตัวการ
เช่น มีเจตมาร่วมกันทำร้ายผู้ตาย แต่ผู้กระทำความผิดคนหนึ่ง
เกิดเจตนาฆ่าผู้เสียหายโดยพลัน ใช้ปืนยิง
ผู้กระทำความผิดอื่นไม่ต้องรับผิดในผลที่เกิดขึ้นเพราะมิใช่ผลโดยตรงจากการกระทำของตนผิด
๒๙๕ เท่านั้น
หรือมีเจตนาไปร่วมกันทำร้าย
แต่มีผู้ร่วมกระทำผิดบางคนประสงค์ต่อทรัพย์ผู้เสียหายภายหลัง
๗.ความผิดฐานทำร้านถ้าต่างคนต่างทำร้าย
ไม่ได้เกิดจากเจตนาร่วมกัน
ต้องพิจารณาความผิดของจำเลยแต่ละคน
ซึ่งหากเป็นการร่วมกันทำร้ายในลักษณะตัวการ ถือว่า การกระทำของผู้กระทำความผิดคนหนึ่งเป็นการกระทำความผิดของคนอื่นด้วย
ถือว่าร่วมกันกระทำ ได้แก่ ๑.วางแผนร่วมกันมาแต่ต้น ๒.ให้การช่วยเหลือหรือพร้อมให้การช่วยเหลือ ๓.แบ่งหน้าที่กันทำ ๔.เจตนาร่วมกัน เช่น ไปด้วยกันส่งมีดให้พูดให้แทงและหลบหนีไปด้วยกัน ,จำเลยสามคนชุ่มตรวจค้นโดยเรียกให้จอดรถผู้เสียหายไม่หยุด ตามไปทำร้ายและข่มขู่อ้างเป็นตำรวจ ใช้อำนาจตรวจค้น แม้จำเลยที่ ๓ จะได้ยืนคุมเชิงและคอยช่วยเหลือแสดงว่ามีเจตนาร่วมกัน ,จำเลยทั้งสามกับพวกมาที่เกิดเหตุด้วยกัน คนที่๑ฟันแฉกหน้าผู้เสียหายที่ ๑ จำเลยที่ ๒ ยิงกระสุนด้าน จำเลยที่ ๓ทุ่มกระถางใส่ผู้เสียหายที่๒ เป็นเจตนาร่วมกันทำร้ายและไม่ได้แบ่งแยกว่าแต่ละคนจะแบ่งแยกกันทำร้ายผู้เสียหายคนใดโดยเจาะจง แต่เป็นเรื่องที่ทั้งสามเจตนายอมรับผลที่เกิดจากการกระทำแต่ละคนเป็นตัวการร่วมทำร้ายผู้เสียหายทั้งสอง,ยอมให้เอาปืนบิดาติดตัวไปและร่วมกันกระทำความผิด ขณะยิงอยู่ใกล้คอยช่วยเหลือ ,ข่มขืนมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ไม่ได้ความว่าร่วมลงมือแต่การที่เปลือยกายอยู่ข้างผู้เสียหาย ถือได้ว่าเป็นตัวการร่วม ,
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น