มาตรา ๓๔๐ ผู้ใดชิงทรัพย์โดย[1]ร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงสิบห้าปี
และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสามหมื่นบาท
ถ้าในการปล้นทรัพย์ ผู้กระทำแม้แต่คนหนึ่งคนใด[2]มีอาวุธติดตัวไปด้วย
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบสองปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นสี่พันบาทถึงสี่หมื่นบาท
ถ้าการปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี
ถ้าการปล้นทรัพย์ได้กระทำโดยแสดงความทารุณจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
[3]ใช้ปืนยิง
ใช้วัตถุระเบิด หรือกระทำทรมาน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต
หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี
ถ้าการปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต
[1] ร่วมกันกระทำความผิดหมายความว่า
เป็นตัวการมีการร่วมกายและร่วมใจ
[2] ผู้กระทำคนใดคนหนึ่งมีอาวุธติดตัวไปด้วย
แม้ผู้ร่วมกระทำความผิดจะไม่รู้ว่าอีกคนมีอาวุธก็มีความผิดด้วย ฎ ๘๙๐/๑๙
[3] ใช้ปืนยิง
หลักเมื่อผู้กระทำความผิดคนใดใช้ปืนยิง ในการปล้นทรัพย์
ถือว่าผู้กระทำความผิดที่ไม่มีอาวุธปืนหรือไม่ได้ยิงอาวุธปืนยิงตาม ป.อ.๓๔๐ ว.๔
ด้วย (ฎ ๓๖๒๐/๓๘) , เช่นคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงสุนัขเพราะสุนัขจะกัด
ขณะที่คนร้ายคนอื่นกำลังค้นหาทรัพย์ถือได้ว่าเป็นการปล้นทรัพย์ได้ใช้ปืนยิง
ผิดม.๓๔๐ วรรคสี่ ,ปล้นทรัพย์เสร็จพอลงจากเรือนเจ้าทรัพย์ร้องว่าพี่น้องโว้ยอย่าพากันออกมาจะตาย
พอห่างไปประมาณ ๑ เส้นได้ใช้ปืนยิงคนละนัดแล้วร้องว่าใครอย่าเข้ามา
ถือว่าการปล้นยังไม่ขาดตอน ๑๓๙๐/๐๙
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น