มาตรา ๒๗๖ ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด
ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้
หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
การกระทำชำเราตามวรรคหนึ่ง
หมายความว่าการกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำโดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ
ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น
หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งได้กระทำโดย[1]มีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด
หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการ[2]โทรมหญิงหรือกระทำกับชายในลักษณะเดียวกัน
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี
และปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำความผิดระหว่างคู่สมรสและคู่สมรสนั้นยังประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา
ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้
หรือจะกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติแทนการลงโทษก็ได้
ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก
และคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาต่อไป
และประสงค์จะหย่า ให้คู่สมรสฝ่ายนั้นแจ้งให้ศาลทราบ
และให้ศาลแจ้งพนักงานอัยการให้ดำเนินการฟ้องหย่าให้
มาตรา ๒๗๗ ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน
โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี
และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
การกระทำชำเราตามวรรคหนึ่ง
หมายความว่าการกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำโดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ
ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงยี่สิบปี
และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นสี่พันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสามได้กระทำโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกัน
อันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิงหรือกระทำกับเด็กชายในลักษณะเดียวกันและเด็กนั้นไม่ยินยอม
หรือได้กระทำโดยมีอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้อาวุธ
ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต
ความผิดตามที่[3]บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง
ถ้าเป็นการกระทำโดยบุคคลอายุไม่เกินสิบแปดปีกระทำต่อเด็กซึ่งมีอายุกว่าสิบสามปี
แต่ยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นยินยอม
และภายหลังศาลอนุญาตให้ทั้งสองฝ่ายสมรสกัน ผู้กระทำผิดไม่ต้องรับโทษ ถ้า[4]ศาลอนุญาตให้สมรสในระหว่างที่ผู้กระทำผิดกำลังรับโทษในความผิดนั้นอยู่
ให้ศาลปล่อยผู้กระทำความผิดนั้นไป
[1]
โดยมีหรือใช้อาวุธ
หมายความว่า จำเลยข่มขืนโดยมีอาวุธแม้ไม่ได้ใช้อาวุธก็ผิดสำเร็จแล้ว
,ใช้สิ่งเทียมอาวุธปืนพกอัดลมชนิดใช้ยิงลูกกระสุนพลาสติก มิใช่อาวุธปืนตาม
พรบ.อาวุธปืนไม่ผิด
[2]
โทรมหญิง หมายถึง
มีผู้ร่วมกระทำชำเราผู้อื่นด้วยตนเองอย่างน้อย ๒ คนผลัดเปลี่ยนกัน ๒๔๔๙/๒๗
ดังนั้นหากมีการข่มขืนกระทำชำเราเพียงคนเดียว
แม้จะมีผู้ร่วมกระทำในลักษณะอันเป็นตัวการตามม.๘๓ เพียงแต่กอดจูบ
ไม่ผิดฐานโทรมหญิง ๑๒๐๒/๒๙(ป) ,มีการร่วมประเวณี ๒ คน โดยหญิงยินยอมหนึ่งคนไม่เป็นการโทรมหญิง
๒๐๗๓/๓๗ ,การผลัดเปลี่ยนกันกระทำชำเราของผู้กระทำความผิดตั้งแต่ ๒
คนขึ้นไปแล้วแม้อีกคนจะอยู่ในขั้นพยายาม(สอดใส่ไม่ได้) ก็เป็นความผิดสำเร็จแล้ว
[3]
บัญญัติไว้วรรคหนึ่ง
หมายความว่า ต้องกระทำโดยเด็กยินยอม
หากเด็กไม่ยินยอม แม้จดทะเบียนกันในภายหลังก็ไม่เข้าข้อยกเว้นมาตรา ๒๗๗วรรคท้าย
และได้รับยกเว้นโทษเฉพาะความผิดนี้หากเป็นความผิดอื่นเช่นพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารต้องรับโทษ
ม.๓๑๗ วรรคท้ายอยู่
[4]
ศาลอนุญาตให้ทำการสมรส เป็นกรณีที่ศาลอนุญาตให้ชายและหญิงสมรสกัน
ซึ่งเป็นกรณีชายและเด็กหญิงอายุยังไม่ครบ ๑๗ ปีบริบูรณ์ จึงไม่อาจสมรสกันได้
ต้องให้ศาลอนุญาตก่อน ดังนั้นถ้าขณะจดทะเบียนสมรสชายและหญิงอายุครบ
๑๗ ปีและผู้ปกครองยินยอม
ย่อมทำการจดทะเบียนสมรสกันได้โดยที่ไม่ต้องได้รับอนุญาตจากศาลก่อนและถือว่าเข้าเงื่อนไขตามม.๒๗๗
วรรคท้าย ชายไม่ต้องรับโทษ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น