มาตรา ๓๐๙ ผู้ใด[1]ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด
ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย
เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น
หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น
ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี
หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าความผิดตามวรรคแรกได้กระทำโดยมีอาวุธ
หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป
หรือได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกข่มขืนใจทำ ถอน ทำให้เสียหาย หรือทำลายเอกสารสิทธิอย่างใด
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้ากระทำโดยอ้างอำนาจอั้งยี่หรือซ่องโจร
ไม่ว่าอั้งยี่หรือซ่องโจรนั้นจะมีอยู่หรือไม่
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี
และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
มาตรา ๓๑๐ ผู้ใด[2]หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น
หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรก เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย
หรือรับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๙๐ มาตรา
๒๙๗ หรือมาตรา ๒๙๘ นั้น
[1] จำเลยกับพวกนำอาวุธปืนติดตัวเข้าไปพูดจาให้ผู้เสียหายคิดบัญชีการที่จำเลยกับผู้เสียหายเข้าหุ้นทำการก่อสร้าง
โดยขู่ว่าถ้าหากไม่คิดจะเกิดเรื่อง ไม่ผิดกรรโชก
เพราะจำเลยไม่มีทางได้ประโยชน์โดยมิชอบแต่ประการใดแต่ผิด ๓๐๙วรรคสอง(เป็นการกระทำโดยมีอาวุธ)
,จำเลยข่มขืนใจให้หยุดรถและหันปืนมาเตรียมยิงผู้เสียหาย ผู้เสียหายไม่หยุดและขับรถหนีผิดพยายาม , พนักงานตำรวจข่มขืนใจให้มอบเงิน๕๐๐บาทผู้เสียหายจ่าย๑๐๐บาทจึงไม่พอใจ และทำร้ายผู้เสียหายและแกล้งจับโดยไม่มีอำนาจผิด๑๔๘,๓๓๗ว.๒
,๓๐๙ว.๒,ม.๒๙๕ ความผิด๓๐๙ ๓๓๗
ผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้นแม้จะยอมไม่เต็มตามที่ถูกเรียกร้องก็เป็นความผิดสำเร็จ,ใช้ปืนบังคับให้ไปส่งไม่ต้องการเอารถไม่เป็นชิงแต่เป็นความผิดตาม
ป.อ.ม.๓๐๙วรรคสอง,
[2] กดจมน้ำเป็นการกระทำความผิดฐานพยายามฆ่าขาดตอน
จำเลยอุ้มผู้เสียหายขึ้นรถยนต์ก.ได้มาพูดขอตัวผู้เสียหายเพื่อนำส่งรพ.แต่จำเลยไม่ยอมคืนเป็นหน่วงเหนี่ยวอีกกรรม, แม้แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานให้จับกุมและควบคุมผู้เสียหาย
ผู้แจ้งไม่ผิด ๓๑๐
เพราะการจับเป็นเรื่องดุลพินิจของเจ้าพนักงานที่จะพิจารณาเห็นสมควรจับกุมอีกครั้งหนึ่ง, แต่ถ้าแจ้งให้จับตามหมายที่ใช้ไม่ได้แล้ว
ไม่ใช่เรื่องดุลพินิจของเจ้าพนักงานแล้ว จำเลยมีความผิดฐานเป็นผู้ใช้ ม.๘๔
๓๑๐(แสดงว่าตำรวจเป็นตัวการ),การหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
“มุ่งที่ตัวบุคคล” ดังนี้การขัดขวางไม่ให้รถออกจากซอยโดยผู้เสียหายอาจเดินออกไปได้
จึงไม่เป็นความผิด ม.๓๑๐ ,การกักขังผู้อื่นในอาคารไม่ให้ออกไปที่อื่นเป็นหน่วงเหนี่ยวแต่การปิดประตูตึกหรืออาคารไม่ให้ผู้อยู่อาศัยเข้าไปในตึกหรืออาคาร
ไม่เป็นความผิดตาม ๓๑๐ วรรคหนึ่ง(๒๑/๒๕๓๑),
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น