[1]มาตรา ๑๔๘ ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน [2]ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ
ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต
และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือประหารชีวิต
[1] ความแตกต่างระหว่าง ๑๔๘และ ๑๔๙ คือ ๑๔๘ เป็นเรื่องเจ้าพนักงานมีเจตนาแต่แรกที่จะกระทำทุจริตโดยใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งโดยมิชอบ
ส่วน ๒๔๙ เป็นเรื่องเจ้าพนักงานเริ่มใช้อำนาจหน้าที่โดยชอบแล้วกลับทุจริตในภายหลัง
, ความผิดสำเร็จแม้ผู้ถูกข่มขืนใจหรือจูงใจไม่ได้มอบให้
หรือไม่ยอมมอบให้หรือหามาให้ ,ความผิดตาม
๑๔๘ อาจมีความผิดฐานกรรโชกตาม ๓๓๗ อีกด้วย ,เมื่อปรับความผิดตามมาตรา ๑๔๘
อันเป็นบทเฉพาะแล้วไม่จำต้องปรับความผิดตามมาตรา ๑๕๗ อีก
[2] การใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบนั้น
ในส่วนของการกระทำจะต้องเป็นเรื่องที่เจ้าพนักงานผู้กระทำได้ใช้อำนาจในตำแหน่งที่ตนดำรงตำแหน่งอยู่โดยตรงดังนั้น
กรณีจำเลยเป็นเจ้าพนักงานดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานที่ดิน
มีหน้าที่เพียงแนะนำประชาชนในเรื่องเกี่ยวกับที่ดินในเรื่องการจดทะเบียนและนิติกรรมและปฏิบัติตามประมวลกฎหมายที่ดิน
หาได้มีอำนาจหน้าที่ในการขอตั้งผู้จัดการมรดก
การจูงใจเพื่อให้มอบเงินที่จำเลยจะไปดำเนินการขอตั้งผู้จัดการมรดก
จึงนอกเหนืออำนาจหน้าที่ไม่ผิด๕๒๘๘/๕๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น