มาตรา ๓๓๔ ผู้ใด[1]เอา[2]ทรัพย์ของผู้อื่น
หรือที่ผู้อื่นเป็น[3]เจ้าของรวมอยู่ด้วยไป[4]โดยทุจริต
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี
และปรับไม่เกินหกพันบาท
[5]มาตรา ๓๓๕ ผู้ใดลักทรัพย์
(๑) ในเวลา[6]กลางคืน
(๒) ในที่หรือบริเวณ[7]ที่มีเหตุเพลิงไหม้
การระเบิด อุทกภัย หรือในที่หรือบริเวณที่มีอุบัติเหตุ เหตุทุกขภัยแก่รถไฟ
หรือยานพาหนะอื่นที่ประชาชนโดยสาร
หรือภัยพิบัติอื่นทำนองเดียวกันหรืออาศัยโอกาสที่มีเหตุเช่นว่านั้น
หรืออาศัยโอกาสที่ประชาชนกำลังตื่นกลัวภยันตรายใดๆ
(๓) โดยทำอันตราย[8]สิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์
หรือ[9]โดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ
(๔) โดยเข้าทาง[10]ช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า
หรือเข้าทางช่องทางซึ่งผู้เป็นใจเปิดไว้ให้
(๕) โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น
มอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้
(๖) โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน
(๘) ใน[13]เคหสถาน
[14]สถานที่ราชการหรือสถานที่[15]ที่จัดไว้เพื่อให้บริการสาธารณที่ตนได้[16]เข้าไปโดย
[17]ไม่ได้รับอนุญาต
หรือ[18]ซ่อนตัวอยู่ในสถานที่นั้นๆ
(๙) ใน[19]สถานที่บูชาสาธารณ
สถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน [20]ที่จอดรถหรือเรือ
สาธารณ สาธารณสถานสำหรับขนถ่ายสินค้า หรือ[21]ในยวดยานสาธารณ
สาธารณ สาธารณสถานสำหรับขนถ่ายสินค้า หรือ[21]ในยวดยานสาธารณ
(๑๐) [22]ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์
(๑๑) [23]ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง
(๑๒) ที่เป็นของ[24]ผู้มีอาชีพกสิกรรม
บรรดาที่เป็นผลิตภัณฑ์ พืชพันธุ์ สัตว์หรือเครื่องมืออันมีไว้สำหรับประกอบกสิกรรมหรือได้มาจากการกสิกรรมนั้น
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี
และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท
ถ้าความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำที่ประกอบด้วยลักษณะดังที่บัญญัติไว้ในอนุมาตราดังกล่าวแล้วตั้งแต่สองอนุมาตราขึ้นไป
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี
และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
ถ้าความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำต่อทรัพย์ที่เป็นโค กระบือ
เครื่องกลหรือเครื่องจักรที่ผู้มีอาชีพกสิกรรมมีไว้สำหรับประกอบกสิกรรม
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี
และปรับตั้งแต่หกพันบาทถึงสองหมื่นบาท
ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวในมาตรานี้
เป็นการกระทำโดยความจำใจหรือความยากจนเหลือทนทาน และทรัพย์นั้นมีราคาเล็กน้อย
ศาลจะลงโทษผู้กระทำความผิดดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๓๔ ก็ได้
[1] การเอาไป
ต้องเป็นการแย่งการครอบครองและตัดกรรมสิทธิ์ตลอดไป
ในลักษณะแย่งการครอบครองคือเอาไปโดยฝ่าฝืนความยินยอมของเจ้าของทรัพย์หรือผู้ครอบครอง ดังนั้นถ้าเข้าใจว่าเจ้าของอนุญาตแล้วถือว่าไม่รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด
ขาดเจตนาลักทรัพย์ เช่น ตัดต้นยูคาลิปตัสเพราะเข้าใจว่าเจ้าของอนุญาตแล้ว
,
กรณีที่ถือว่าไม่เอาไปในลักษณะตัดกรรมสิทธิ์ เช่น
เอารถของผู้อื่นไปเพื่อใช้ในการหลบหนีเป็นการเอาไปเพียงชั่วคราวไม่ผิด
เช่นยิงคนอื่นตายใช้ปืนจี้รถจักรยานยนต์ไปทิ้งไว้ห่างจากที่เกิดเหตุ ๒๐
กิโลเมตร,น้องถูกจับฐานนำปลาย่างหลบหนีภาษี
พี่ชายไปเอาปลาย่างของกลางไปจากตำรวจไม่มีเจตนาเอาทรัพย์แต่ผิดทำลายหลักฐาน๑๔๒
เหตุผลที่ศาลวางมี ๒ ประเภท
๑.เป็นการเอาทรัพย์ผู้อื่นไปชั่วคราว ไม่เป็นการเอาไปเช่น๑๐๐๒/๓๕ ๒.ไม่มีเจตนาหรือเจตนาทุจริต เช่น ฎ
๗๘๘๐/๔๗
,ประเด็นเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปจำนำ เป็นการเอาไปในลักษณะตัดกรรมสิทธิ์แล้ว
,บอกขายทรัพย์สินของผู้อื่นโดยไม่ใช่ของตน
[2] ทรัพย์ ประเด็นสำคัญ
ลักกระแสไฟฟ้า และสัญญาณโทรศัพท์ ฎีกา ๘๗๗/๐๑ ป
วางหลักว่ากระแสไฟฟ้าเป็นทรัพย์ ฎีกา ๑๘๘๐/๔๒ป
ลักเอาสัญญาณโทรศัพท์จากตู้โทรศัพท์
ผิดลักทรัพย์เพราะสัญญาณโทรศัพท์เป็นกระแสไฟฟ้าที่แปลงจากเสียงพูดเคลื่อนที่ไปตามลวดตัวนำจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง (เอาไปซึ่งทรัพย์ผู้อื่น) มีฎีกา ๑๙๔๔/๔๙
การปรับจูนและก๊อปปี้สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นเพียงการแย่งการใช้สัญญาณคลื่นโดยไม่มีสิทธิเท่านั้นไม่ผิดลักทรัพย์(มิใช่เป็นการเอาไปซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่นโดยทุจริต),ทรัพย์ต้องเป็นวัตถุมีรูปร่าง
ข้อมูลในแผ่นบันทึกข้อมูลไม่ถือว่าเป็นทรัพย์
[3] หลักจะผิดลักทรัพย์ต้องได้ความว่าเจ้าของรวมผู้ลักมิได้ครอบครองทรัพย์นั้นอยู่
,เอาทรัพย์ของบุคคลมารวมเข้าด้วยกันจนแบ่งแยกไม่ได้
ผู้เป็นเจ้าของทรัพย์ประธานย่อมเป็นเจ้าของทรัพย์ที่รวมแต่ผู้เดียวแต่ต้องใช้ค่าแห่งทรัพย์อื่น
ปพพ.๑๓๑๖ ว.๒ ไม่ใช่เรื่องเจ้าของรวม เจ้าของทรัพย์ประธานเอาไปไม่ผิดลักทรัพย์เช่น
ผู้เช่าซื้อเอารถที่เช่าชื้อมาต่อตัวถัง
ผู้ให้เช่าชื้อเอารถไปทั้งหมดไม่ผิด
[4] เจตนาโดยทุจริต หมายถึง
เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้สำหรับตนเองหรือผู้อื่น กรณีไม่ทุจริตเช่น ๑.เอาเพื่อเป็นการหยามน้ำหน้า
หรือเพื่ออวดเพื่อนด้วยอารมณ์โกรธแค้น เช่น
ยกพวกต่อยตีกันเอากระเป๋าผู้เสียหายไปบอกว่าอยากได้ให้ตามไปเอา
,ขึ้นไปบังคับเอาเสื้อฝึกงานกับแหวนรุ่นโดยเป็นนักศึกษาต่างสถาบันที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน
,จำเลยขายบริการให้แต่ผู้เสียหายผิดข้อตกลงจึงทำร้ายผู้เสียหายและเอาปืนไปโยนทิ้งน้ำเพราะกลัวผู้เสียหายจะยิง
,๒.เอาไปโดยถือวิสาสะ เช่น เป็นคู่เขยกันจำเลยเข้าไปบ้านผู้เสียหายเอาปืนของผู้เสียหายไปเฝ้าข้าว ๓.เจ้าหนี้ใช้อำนาจบังคับหนี้โดยพลการ
โดยที่ทรัพย์สินของลูกหนี้ยึดมีราคาไม่เกินกว่าจำนวนที่ลูกหนี้ค้างชำระ
เช่นค้างชำระค่าเช่านา ๒๙,๔๐๐ ไม่ยอมจ่ายเจ้าหนี้เอาเกวียนกับกระบือไปราคา ๗,๕๐๐
บาทไปเพื่อหักหนี้ หรือมีข้อตกลงว่าจะให้ค่าเช่า
๑๐๘ ถัง ผู้เสียหายไม่ชำระผู้ให้เช่าเข้าไปตักข้าวไป ๑๐๘ ถัง ๔.เอาทรัพย์ไปเป็นประกันเพื่อให้เจ้าหนี้ที่ค้างไม่เป็นการเอาไปโดยทุจริต
เช่น เอาตู้เย็นไปบอกภริยาและลูกว่าให้ไปตกลงเรื่องหนี้ ประเด็นเจ้าของเดินกับเจ้าของใหม่ ๑.ทำสัญญาประนีประนอมในคดีแพ่ง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถว มีข้อตกลงยกเครื่องปรับอากาศให้โจทก์ จำเลยเอาไปผิดลักทรัพย์
๒.ปลูกอ้อยไว้ในที่ดินขายที่ดินไม่มีข้อตกลกเรื่องอ้อย เจ้าของเดิมไปตัดอ้อยผิดลักทรัพ์เพราะ
อ้อยเป็นไม้ล้มลุกจึงไม่เป็นส่วนควบกับที่ดิน การขายที่ดินไม่ทำให้กรรมสิทธิ์ในต้นอ้อยโดยไปยังผู้ซื้อด้วย
เจ้าของเดิมเข้าไปตัดอ้อยไม่ผิด ,
[5] การปรับบทเมื่อผิดตามมาตรา
๓๓๕ แล้วไม่ต้องปรับบทลงโทษตามม.๓๓๔ อีก ฎ๓๖๕๐/๒๗
[6] กลางคืน
หมายความว่า
ระหว่างพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้นม.๑(๑๑)
โดยให้ดูดวงอาทิตย์เป็นสำคัญไม่ใช่ดูแสงอาทิตย์ (พระอาทิตย์ขึ้นมา
หมายความว่าพระอาทิตย์ขึ้นพ้นขอบฟ้าแล้ว
[7] มีเหตุ
ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์ของผู้ที่ได้รับอันตรายจากการเกิดเพลิงไหม้
การระเบิดหรืออุทกภัยหรือไม่ก็ตาม
[8] ถือเป็นการทำลายสิ่งกีดกั้น
ได้แก่ การตัดโซ่ที่ใช้ยึดกล้องวีดีโอในห้างสรรพสินค้า
และต้องเป็นการทำลายตอนเข้าไปลักทรัพย์ไม่ใช่ทำลายในตอนกลับ
[9] ถือว่าผ่านสิ่งกีดกั้น
ได้แก่ การเข้าไปลักทรัพย์ในห้องนอนที่เปิดอยู่ ,การเข้าไปลักทรัพย์ในรถกระบะ
,กรณีไม่เป็นการผ่านสิ่งกีดกัน ได้แก่ การใช้กุญแจปลอมไข
[10] ช่องทางต้องมีอยู่แล้ว
มิใช่ตัดช่องเปิดหลังคา
[11] โดยมีอาวุธ
หากเป็นการเข้าไปลักทรัพย์โดยมีอาวุธโดยสภาพไม่ต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ กล่าวคือแม้ไม่ได้ความว่าพกมีดและขวานไปทำอะไร
ก็ผิด ๗๓๐/๐๙ ,แต่หากไม่ใช่อาวุธโดยสภาพต้องได้ความว่ามีเจตนาจะใช้ทำอันตรายอย่างสาหัสอย่างอาวุธ
,อาวุธต้องมีอาวุธอยู่ในระหว่างการลักทรัพย์
,หากเป็นการได้อาวุธจากการลักทรัพย์หรือแย่งจากเจ้าของทรัพย์ไม่ใช่เป็นการลักทรัพย์โดยมีอาวุธ
๘๘๖/๙๒
[12] โดยร่วมกันกระทำความผิด
หมายความว่าการกระทำดังกล่าวต้องเป็นการเข้าลักษณะของตัวการไม่รวมถึงผู้ใช้หรือผู้สนับสนุน
ตามม.๘๔ หรือ ๘๖
[13] กรณีเป็นเคหสถาน
ได้แก่ เกวียนที่เจ้าของใช้เป็นที่อยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน
,ที่พักคนงานที่อยู่กินหลับนอนชั่วคราว
,โรงภาพยนตร์ที่มีคนอยู่ประจำเฝ้ารักษาไว้ระหว่างที่ไม่ใช่เวลาฉายภาพยนตร์เป็นเคหสถาน,กุฏิพระเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับพระภิกษุ,เล้าไก่ห่างจากตัวเรือน
๑
[14] สถานที่ราชการ กรณีไม่ใช่ได้แก่
ลักทรัพย์ในโรงอาหารของมหาวิทยาลัยไม่เป็นสถานที่ราชการ๒๘๔๕/๔๓
,สำนักงานประปาสงขลาเป็นรัฐวิสาหกิจมิใช่สถานที่ราชการ ๑๒๔๓/๔๕
[15] สถานที่ที่จัดเพื่อให้บริการสาธารณะ
หมายความถึง สถานทีที่ให้การช่วยเหลือหรือปฏิบัติภารกิจสนองความต้องการเพื่อประโยชน์ของประชาชน แนวฎีกา
โรงพักสินค้าของการท่าเรือสำหรับขนถ่ายสินค้า ๗๑/๐๓
[16] การเข้าไป
หมายความว่า ต้องเป็นการเข้าไปทั้งตัว (ฎ ๙๙๖/๙๒ ป)
[17] ไม่ได้รับอนุญาต หากเป็นการเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตก็ไม่ผิด
เช่น เจ้าของบ้านมอบกุญแจให้เข้าไปเดินสายไฟแล้วลักทรัพย์ก็ไม่ผิด ๓๓๕(๘)
[18] ซ่อนตัว
หมายความถึงกรณีเข้าไปแม้โดยได้รับอนุญาตแต่ถือโอกาสไม่กลับออกมา
[19] สถานที่บูชาสาธารณะไม่จำกัดศาสนา
กรณีไม่ใช่ ได้แก่ลักตู้บริจาคซึ่งตั้งอยู่บริเวณตั้งศพเจ้าอาวาสไม่ผิดม.๓๓๕(๙)
[20] ที่จอดรถหรือเรือสาธารณะ
หมายถึงที่ที่ประชาชนใช้ขึ้นลงรถหรือเรือ ดังนั้นป้ายที่จอดรถประจำทางเป็นแต่หยุดรับส่งคนโดยสารแล้วผ่านต่อไปไม่ใช่ที่จอดรอรับส่งคนโดยสาร
หากลักที่ป้ายจอดรถประจำทางจึงไม่ผิดมาตรานี้ ๙๘๔/๐๔
[21] ในยวดยานสาธารณะ
ตัวผู้กระทำไม่จำเป็นต้องอยู่ในยวดยานสาธารณะนั้น
ดังนั้น จำเลยยืนอยู่นอกรถโดยสารประจำทางแล้วใช้กำลังประทุษร้ายดึงตัวผู้เสียหายให้ลงมาจากรถแล้วบังคับเอาทรัพย์จากผู้เสียหายผิด
ม.๓๙๙ ว.สอง ประกอบด้วยม.๓๓๕(๙)
[22] ลักเงินในตู้โทรศัพท์สาธารณะไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์
[23] ความผิดตามม.๓๓๕(๑๑)
ขึ้นอยู่กับตัวทรัพย์ที่ลักว่าเป็นของนายจ้างหรือความครอบครองของนายจ้างหรือไม่
หากได้จำกัดว่าต้องเป็นการลักทรัพย์ที่นายจ้างมอบหมายให้ลูกจ้างครอบครองดูแลรับผิดชอบเท่านั้นไม่
แม้จำเลยไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์ของกลางที่ลักก็เป็นความผิดตามม.๓๓๕(๑)ได้ ,ความเป็นนายจ้างเป็นเรื่องเฉพาะตัว
ผู้ร่วมกระทำความผิดหากไม่ได้เป็นลูกจ้างก็ไม่ผิดตามมาตรานี้ด้วย
[24] ผู้มีอาชีพกสิกรรม
หมายความถึง การเพาะปลูก เลี้ยงปศุสัตว์ ไม่หมายความรวมถึงประมงหรือป่าไม้
และทรัพย์จะต้องเป็นของผู้มีอาชีพกสิกรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น