วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ม.๓๓๔-๓๓๕


มาตรา ๓๓๔  ผู้ใด[1]เอา[2]ทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็น[3]เจ้าของรวมอยู่ด้วยไป[4]โดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกพันบาท

[5]มาตรา ๓๓๕  ผู้ใดลักทรัพย์
(๑) ในเวลา[6]กลางคืน
(๒) ในที่หรือบริเวณ[7]ที่มีเหตุเพลิงไหม้ การระเบิด อุทกภัย หรือในที่หรือบริเวณที่มีอุบัติเหตุ เหตุทุกขภัยแก่รถไฟ หรือยานพาหนะอื่นที่ประชาชนโดยสาร หรือภัยพิบัติอื่นทำนองเดียวกันหรืออาศัยโอกาสที่มีเหตุเช่นว่านั้น หรืออาศัยโอกาสที่ประชาชนกำลังตื่นกลัวภยันตรายใดๆ
(๓) โดยทำอันตราย[8]สิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือ[9]โดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ
(๔) โดยเข้าทาง[10]ช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า หรือเข้าทางช่องทางซึ่งผู้เป็นใจเปิดไว้ให้
(๕) โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้
(๖) โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน
(๗) [11]โดยมีอาวุธ หรือ[12]โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป
(๘) ใน[13]เคหสถาน [14]สถานที่ราชการหรือสถานที่[15]ที่จัดไว้เพื่อให้บริการสาธารณที่ตนได้[16]เข้าไปโดย [17]ไม่ได้รับอนุญาต หรือ[18]ซ่อนตัวอยู่ในสถานที่นั้นๆ
(๙) ใน[19]สถานที่บูชาสาธารณ สถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน [20]ที่จอดรถหรือเรือ
สาธารณ สาธารณสถานสำหรับขนถ่ายสินค้า หรือ[21]ในยวดยานสาธารณ
(๑๐) [22]ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์
(๑๑) [23]ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง
(๑๒) ที่เป็นของ[24]ผู้มีอาชีพกสิกรรม บรรดาที่เป็นผลิตภัณฑ์ พืชพันธุ์ สัตว์หรือเครื่องมืออันมีไว้สำหรับประกอบกสิกรรมหรือได้มาจากการกสิกรรมนั้น
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท
ถ้าความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำที่ประกอบด้วยลักษณะดังที่บัญญัติไว้ในอนุมาตราดังกล่าวแล้วตั้งแต่สองอนุมาตราขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
ถ้าความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำต่อทรัพย์ที่เป็นโค กระบือ เครื่องกลหรือเครื่องจักรที่ผู้มีอาชีพกสิกรรมมีไว้สำหรับประกอบกสิกรรม ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกพันบาทถึงสองหมื่นบาท
ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวในมาตรานี้ เป็นการกระทำโดยความจำใจหรือความยากจนเหลือทนทาน และทรัพย์นั้นมีราคาเล็กน้อย ศาลจะลงโทษผู้กระทำความผิดดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๓๔ ก็ได้



[1] การเอาไป  ต้องเป็นการแย่งการครอบครองและตัดกรรมสิทธิ์ตลอดไป ในลักษณะแย่งการครอบครองคือเอาไปโดยฝ่าฝืนความยินยอมของเจ้าของทรัพย์หรือผู้ครอบครอง  ดังนั้นถ้าเข้าใจว่าเจ้าของอนุญาตแล้วถือว่าไม่รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด ขาดเจตนาลักทรัพย์ เช่น ตัดต้นยูคาลิปตัสเพราะเข้าใจว่าเจ้าของอนุญาตแล้ว ,
กรณีที่ถือว่าไม่เอาไปในลักษณะตัดกรรมสิทธิ์ เช่น เอารถของผู้อื่นไปเพื่อใช้ในการหลบหนีเป็นการเอาไปเพียงชั่วคราวไม่ผิด เช่นยิงคนอื่นตายใช้ปืนจี้รถจักรยานยนต์ไปทิ้งไว้ห่างจากที่เกิดเหตุ ๒๐ กิโลเมตร,น้องถูกจับฐานนำปลาย่างหลบหนีภาษี พี่ชายไปเอาปลาย่างของกลางไปจากตำรวจไม่มีเจตนาเอาทรัพย์แต่ผิดทำลายหลักฐาน๑๔๒ เหตุผลที่ศาลวางมี  ๒ ประเภท ๑.เป็นการเอาทรัพย์ผู้อื่นไปชั่วคราว ไม่เป็นการเอาไปเช่น๑๐๐๒/๓๕ ๒.ไม่มีเจตนาหรือเจตนาทุจริต เช่น ฎ ๗๘๘๐/๔๗  ,ประเด็นเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปจำนำ เป็นการเอาไปในลักษณะตัดกรรมสิทธิ์แล้ว ,บอกขายทรัพย์สินของผู้อื่นโดยไม่ใช่ของตน
[2] ทรัพย์  ประเด็นสำคัญ  ลักกระแสไฟฟ้า และสัญญาณโทรศัพท์ ฎีกา ๘๗๗/๐๑ ป วางหลักว่ากระแสไฟฟ้าเป็นทรัพย์  ฎีกา ๑๘๘๐/๔๒ป ลักเอาสัญญาณโทรศัพท์จากตู้โทรศัพท์ ผิดลักทรัพย์เพราะสัญญาณโทรศัพท์เป็นกระแสไฟฟ้าที่แปลงจากเสียงพูดเคลื่อนที่ไปตามลวดตัวนำจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง  (เอาไปซึ่งทรัพย์ผู้อื่น) มีฎีกา ๑๙๔๔/๔๙ การปรับจูนและก๊อปปี้สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นเพียงการแย่งการใช้สัญญาณคลื่นโดยไม่มีสิทธิเท่านั้นไม่ผิดลักทรัพย์(มิใช่เป็นการเอาไปซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่นโดยทุจริต),ทรัพย์ต้องเป็นวัตถุมีรูปร่าง ข้อมูลในแผ่นบันทึกข้อมูลไม่ถือว่าเป็นทรัพย์
[3] หลักจะผิดลักทรัพย์ต้องได้ความว่าเจ้าของรวมผู้ลักมิได้ครอบครองทรัพย์นั้นอยู่ ,เอาทรัพย์ของบุคคลมารวมเข้าด้วยกันจนแบ่งแยกไม่ได้ ผู้เป็นเจ้าของทรัพย์ประธานย่อมเป็นเจ้าของทรัพย์ที่รวมแต่ผู้เดียวแต่ต้องใช้ค่าแห่งทรัพย์อื่น ปพพ.๑๓๑๖ ว.๒ ไม่ใช่เรื่องเจ้าของรวม เจ้าของทรัพย์ประธานเอาไปไม่ผิดลักทรัพย์เช่น ผู้เช่าซื้อเอารถที่เช่าชื้อมาต่อตัวถัง  ผู้ให้เช่าชื้อเอารถไปทั้งหมดไม่ผิด
[4] เจตนาโดยทุจริต  หมายถึง เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้สำหรับตนเองหรือผู้อื่น  กรณีไม่ทุจริตเช่น ๑.เอาเพื่อเป็นการหยามน้ำหน้า หรือเพื่ออวดเพื่อนด้วยอารมณ์โกรธแค้น  เช่น ยกพวกต่อยตีกันเอากระเป๋าผู้เสียหายไปบอกว่าอยากได้ให้ตามไปเอา ,ขึ้นไปบังคับเอาเสื้อฝึกงานกับแหวนรุ่นโดยเป็นนักศึกษาต่างสถาบันที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ,จำเลยขายบริการให้แต่ผู้เสียหายผิดข้อตกลงจึงทำร้ายผู้เสียหายและเอาปืนไปโยนทิ้งน้ำเพราะกลัวผู้เสียหายจะยิง ,๒.เอาไปโดยถือวิสาสะ เช่น เป็นคู่เขยกันจำเลยเข้าไปบ้านผู้เสียหายเอาปืนของผู้เสียหายไปเฝ้าข้าว  ๓.เจ้าหนี้ใช้อำนาจบังคับหนี้โดยพลการ โดยที่ทรัพย์สินของลูกหนี้ยึดมีราคาไม่เกินกว่าจำนวนที่ลูกหนี้ค้างชำระ เช่นค้างชำระค่าเช่านา ๒๙,๔๐๐ ไม่ยอมจ่ายเจ้าหนี้เอาเกวียนกับกระบือไปราคา ๗,๕๐๐ บาทไปเพื่อหักหนี้  หรือมีข้อตกลงว่าจะให้ค่าเช่า ๑๐๘ ถัง ผู้เสียหายไม่ชำระผู้ให้เช่าเข้าไปตักข้าวไป ๑๐๘ ถัง ๔.เอาทรัพย์ไปเป็นประกันเพื่อให้เจ้าหนี้ที่ค้างไม่เป็นการเอาไปโดยทุจริต เช่น เอาตู้เย็นไปบอกภริยาและลูกว่าให้ไปตกลงเรื่องหนี้  ประเด็นเจ้าของเดินกับเจ้าของใหม่  ๑.ทำสัญญาประนีประนอมในคดีแพ่ง โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถว มีข้อตกลงยกเครื่องปรับอากาศให้โจทก์  จำเลยเอาไปผิดลักทรัพย์ ๒.ปลูกอ้อยไว้ในที่ดินขายที่ดินไม่มีข้อตกลกเรื่องอ้อย  เจ้าของเดิมไปตัดอ้อยผิดลักทรัพ์เพราะ อ้อยเป็นไม้ล้มลุกจึงไม่เป็นส่วนควบกับที่ดิน การขายที่ดินไม่ทำให้กรรมสิทธิ์ในต้นอ้อยโดยไปยังผู้ซื้อด้วย เจ้าของเดิมเข้าไปตัดอ้อยไม่ผิด ,
[5] การปรับบทเมื่อผิดตามมาตรา ๓๓๕ แล้วไม่ต้องปรับบทลงโทษตามม.๓๓๔ อีก ฎ๓๖๕๐/๒๗
[6] กลางคืน หมายความว่า  ระหว่างพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้นม.๑(๑๑) โดยให้ดูดวงอาทิตย์เป็นสำคัญไม่ใช่ดูแสงอาทิตย์ (พระอาทิตย์ขึ้นมา หมายความว่าพระอาทิตย์ขึ้นพ้นขอบฟ้าแล้ว
[7] มีเหตุ  ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์ของผู้ที่ได้รับอันตรายจากการเกิดเพลิงไหม้ การระเบิดหรืออุทกภัยหรือไม่ก็ตาม
[8] ถือเป็นการทำลายสิ่งกีดกั้น ได้แก่ การตัดโซ่ที่ใช้ยึดกล้องวีดีโอในห้างสรรพสินค้า และต้องเป็นการทำลายตอนเข้าไปลักทรัพย์ไม่ใช่ทำลายในตอนกลับ
[9] ถือว่าผ่านสิ่งกีดกั้น ได้แก่ การเข้าไปลักทรัพย์ในห้องนอนที่เปิดอยู่ ,การเข้าไปลักทรัพย์ในรถกระบะ ,กรณีไม่เป็นการผ่านสิ่งกีดกัน ได้แก่ การใช้กุญแจปลอมไข
[10] ช่องทางต้องมีอยู่แล้ว มิใช่ตัดช่องเปิดหลังคา
[11] โดยมีอาวุธ  หากเป็นการเข้าไปลักทรัพย์โดยมีอาวุธโดยสภาพไม่ต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการใช้  กล่าวคือแม้ไม่ได้ความว่าพกมีดและขวานไปทำอะไร ก็ผิด ๗๓๐/๐๙ ,แต่หากไม่ใช่อาวุธโดยสภาพต้องได้ความว่ามีเจตนาจะใช้ทำอันตรายอย่างสาหัสอย่างอาวุธ ,อาวุธต้องมีอาวุธอยู่ในระหว่างการลักทรัพย์  ,หากเป็นการได้อาวุธจากการลักทรัพย์หรือแย่งจากเจ้าของทรัพย์ไม่ใช่เป็นการลักทรัพย์โดยมีอาวุธ ๘๘๖/๙๒
[12] โดยร่วมกันกระทำความผิด หมายความว่าการกระทำดังกล่าวต้องเป็นการเข้าลักษณะของตัวการไม่รวมถึงผู้ใช้หรือผู้สนับสนุน ตามม.๘๔ หรือ ๘๖
[13] กรณีเป็นเคหสถาน ได้แก่ เกวียนที่เจ้าของใช้เป็นที่อยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน ,ที่พักคนงานที่อยู่กินหลับนอนชั่วคราว ,โรงภาพยนตร์ที่มีคนอยู่ประจำเฝ้ารักษาไว้ระหว่างที่ไม่ใช่เวลาฉายภาพยนตร์เป็นเคหสถาน,กุฏิพระเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับพระภิกษุ,เล้าไก่ห่างจากตัวเรือน ๑
[14] สถานที่ราชการ  กรณีไม่ใช่ได้แก่ ลักทรัพย์ในโรงอาหารของมหาวิทยาลัยไม่เป็นสถานที่ราชการ๒๘๔๕/๔๓ ,สำนักงานประปาสงขลาเป็นรัฐวิสาหกิจมิใช่สถานที่ราชการ ๑๒๔๓/๔๕
[15] สถานที่ที่จัดเพื่อให้บริการสาธารณะ หมายความถึง สถานทีที่ให้การช่วยเหลือหรือปฏิบัติภารกิจสนองความต้องการเพื่อประโยชน์ของประชาชน  แนวฎีกา โรงพักสินค้าของการท่าเรือสำหรับขนถ่ายสินค้า ๗๑/๐๓
[16] การเข้าไป หมายความว่า ต้องเป็นการเข้าไปทั้งตัว (ฎ ๙๙๖/๙๒ ป)
[17] ไม่ได้รับอนุญาต  หากเป็นการเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตก็ไม่ผิด เช่น เจ้าของบ้านมอบกุญแจให้เข้าไปเดินสายไฟแล้วลักทรัพย์ก็ไม่ผิด ๓๓๕(๘)
[18] ซ่อนตัว หมายความถึงกรณีเข้าไปแม้โดยได้รับอนุญาตแต่ถือโอกาสไม่กลับออกมา
[19] สถานที่บูชาสาธารณะไม่จำกัดศาสนา กรณีไม่ใช่ ได้แก่ลักตู้บริจาคซึ่งตั้งอยู่บริเวณตั้งศพเจ้าอาวาสไม่ผิดม.๓๓๕(๙)
[20] ที่จอดรถหรือเรือสาธารณะ หมายถึงที่ที่ประชาชนใช้ขึ้นลงรถหรือเรือ ดังนั้นป้ายที่จอดรถประจำทางเป็นแต่หยุดรับส่งคนโดยสารแล้วผ่านต่อไปไม่ใช่ที่จอดรอรับส่งคนโดยสาร หากลักที่ป้ายจอดรถประจำทางจึงไม่ผิดมาตรานี้ ๙๘๔/๐๔
[21] ในยวดยานสาธารณะ ตัวผู้กระทำไม่จำเป็นต้องอยู่ในยวดยานสาธารณะนั้น  ดังนั้น จำเลยยืนอยู่นอกรถโดยสารประจำทางแล้วใช้กำลังประทุษร้ายดึงตัวผู้เสียหายให้ลงมาจากรถแล้วบังคับเอาทรัพย์จากผู้เสียหายผิด ม.๓๙๙ ว.สอง ประกอบด้วยม.๓๓๕(๙)
[22] ลักเงินในตู้โทรศัพท์สาธารณะไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์
[23] ความผิดตามม.๓๓๕(๑๑) ขึ้นอยู่กับตัวทรัพย์ที่ลักว่าเป็นของนายจ้างหรือความครอบครองของนายจ้างหรือไม่ หากได้จำกัดว่าต้องเป็นการลักทรัพย์ที่นายจ้างมอบหมายให้ลูกจ้างครอบครองดูแลรับผิดชอบเท่านั้นไม่ แม้จำเลยไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์ของกลางที่ลักก็เป็นความผิดตามม.๓๓๕(๑)ได้  ,ความเป็นนายจ้างเป็นเรื่องเฉพาะตัว ผู้ร่วมกระทำความผิดหากไม่ได้เป็นลูกจ้างก็ไม่ผิดตามมาตรานี้ด้วย  
[24] ผู้มีอาชีพกสิกรรม หมายความถึง การเพาะปลูก เลี้ยงปศุสัตว์ ไม่หมายความรวมถึงประมงหรือป่าไม้ และทรัพย์จะต้องเป็นของผู้มีอาชีพกสิกรรม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น