มาตรา ๒๖๔ ผู้ใดทำ[1]เอกสาร[2]ปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือ[3]แต่ส่วนหนึ่งส่วนใด
เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใดๆ ในเอกสารที่แท้จริง
หรือประทับตราปลอม หรือ[4]ลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร
โดยประการที่[5]น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
ถ้าได้กระทำ[6]เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี
หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดกรอกข้อความลงในแผ่นกระดาษหรือวัตถุอื่นใด
ซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่น[7]โดยไม่ได้รับความยินยอม
หรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่นนั้น
ถ้าได้กระทำเพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชน
ให้ถือว่าผู้นั้นปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน
[1]
เอกสาร กรณีไม่ถือว่าไม่เป็นเอกสาร ได้แก่
แบบพิมพ์เช็คที่ยังไม่ได้กรอกข้อความ เท่ากับ ยังมิได้ทำให้ปรากฏความหมายด้วยตัวอักษร
ตัวเลข อันเป็นหลักฐานแห่งความหมายนั้น ,ภาพถ่ายห้องเครื่องใช้ ตู้เสื้อผ้า
ของอื่นๆในบ้าน เป็นภาพจำลองไม่ได้ปรากฏความหมายอย่างใด
,การขูดลบเครื่องหมายเลขทะเบียนอาวุธปืนเป็นเพียงการทำลายเอกสาร
ไม่เป็นการปลอมเพราะ ไม่มีเอกสารเหลือใหผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อ กรณีถือว่าเป็นเอกสารได้แก่ เอทีเอ็ม
ตั๋วพิมพ์รูปพรรณสัตว์
[2]
ปลอมขึ้นทั้งฉบับ
หลัก ไม่จำต้องมีเอกสารที่แท้จริงอยูก่อน
และไม่ต้องทำให้เหมือนจริงก็ปลอมได้ หากเป็นการกระทำโดยไม่มีอำนาจทำ
หากมีอำนาจทำไม่เป็นการปลอมแต่อาจเป็นเอกสารเท็จ ตัวอย่างปลอมทั้งฉบับเช่น ถ่ายสำเนาทะเบียนรถจากฉบับที่แท้จริงแล้วแก้ไขในช่องผู้ถือกรรมสิทธิ์
กรณีถือว่าเป็นเอกสารเท็จแต่ไม่เป็นเอกสารปลอมเช่น ข้าราชการเขียนเบิกค่าเดินทางอันเป็นเท็จ ,
ลงชื่อฝากเงินโดยใช้ชื่อไม่ตรงนามที่แท้จริง
เป็นเรื่องขอเปิดบัญชีต่อธนาคารโดยไม่ประสงค์จะใช้นามอันแท้จริง ของจำเลยเป็นผู้ฝากเท่านั้น
,สามีโจทก์จะโกงโจทก์ซึ่งเป็นภรรยา
จึงได้ทำสัญญากู้กับจำเลยว่าเป็นหนี้เพื่อให้ภริยาช่วยใช้
เป็นเอกสารที่แท้จริงที่จำเลยและสามีโจทก์ร่วมกันทำขึ้น มิใช่เอกสารปลอม
เป็นเพียงเอกสารเท็จเท่านั้น ,ขับรถไปชนคนตาย
จึงทำสัญญาซื้อขายลงวันที่ย้อนหลังว่าได้ขายรถให้คนอื่นไปแล้วหนีผิด ไม่เป็นปลอมเพราะ
ทั้งผู้ซื้อผู้ขายได้ทำเอกสารชื้อขายโดยลงลายมือชื่อของทั้งสองจริง
มิได้ปลอมลายมือชื่อผู้ใดแม้ไม่ตรงจริงก็ไม่เป็นเท็จ ๑๐๔๖/๒๖(ป)
กรณีถือว่าเป็นเอกสารปลอม ได้แก่ เอาหนังสือเดินทางต่างประเทศมาแกะภาพถ่ายออก
แล้วนำภาพของจำเลยปิดแทน แม้ภาพถ่ายไม่ใช่เอกสาร แต่เมื่อนำไปติดหนังสือเดินทาง
ย่อมทำให้ความหมายที่แท้จริงเปลี่ยนไป การ กระทำเป็นการปลอมเอกสารราชการ ๑๒๒๗/๓๗ ,
[3]
ทำเอกสารปลอมโดยการเติม
ตัดทอนข้อความหรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ต้องมีเอกสารที่แท้จริงก่อน
[4] ลายมือชื่อไม่มีกฎหมายให้อำนาจลงลายมือชื่อแทนกันได้
การลงลายมือชื่อแทนแม้เจ้าของลายมือชื่อจะให้ความยินยอม ก็เป็นเอกสารปลอม
แต่อาจไม่ผิดเพราะไม่เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ๔๑๓๕/๕๓
[5]
“น่าจะเกิดความเสียหาย” กรณีไม่น่าจะเกิดความเสียหาย ได้แก่
ปลอมเลขท้ายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ถูกรางวัลเพื่อล้อกันเล่นระหว่างเพื่อนฝูง
ให้เพื่อนเลี้ยงอาหาร ,ปลอมใบขับขี่เพื่อให้เพื่อหาเจ้ามือเลี้ยงสุรา
,ผู้อำนวยการโรงเรียนไปทำงานก่อนจำเลยลงเวลา ๘.๐๐ น.จำเลยไปทำงานที่หลังแก้เวลาของ
ผอ.เป็น ๗.๔๖ เป็นการแก้ว่าผอ. มาทำงานเร็วกว่าเดิม และเขียนของตนเองว่า ๘.๐๐
น.เวลาที่จำเลยเขียนต่างไม่ถึงเวลาปฏิบัติราชการ
การเขียนแก้จึงไม่อาจเป็นการโกงเวลาราชการ
และไม่ทำให้ผอ.ถูกลงโทษทางวินัย,ตอนกู้ไม่ได้ลงนามพยานจะฟ้องจึงได้ลงนามพยานภายหลัง
เพื่อนำมาเป็นหลักฐานฟ้อง ไม่ผิดปลอม๑๑๒๖/๐๕,รถทะเบียนหลุดหายนำแผ่นป้ายทะเบียนที่ไม่ใช่ของทางราชการ
นำไปติดรถตรงตามทะเบียนไม่ผิด
[6]
เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง
ได้แก่ เจตนาให้บุคคลอื่นหลงเชื่อ แม้คนอื่นไม่เชื่อก็ผิด
[7]
ผู้ตายลงลายมือชื่อไว้
กรอกข้อความว่าให้ไปทำสัญญาซื้อขายที่ดิน
หลังจากผู้ตายตายจำเลยนำไปกรอกข้อความนำไปซื้อขายตามความประสงค์ของผู้ตายก็ผิด เพราะ
แม้เป็นการกระทำตรงตามความประสงค์ของผู้ตายแต่การมอบอำนาจยังไม่สมบูรณ์
เพราะเมื่อผู้มอบอำนาจถึงแก่ความตาย การมอบอำนาจก็สิ้นผล
แต่จำเลยกับทำหนังสือมอบอำนาจให้มีผลสมบูรณ์โดยการกรอกข้อความการกระทำดังกล่าวไม่เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย
แต่ก็อาจเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชน ผิดม.๒๖๔ ว.๒
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น