วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ม.๒๖๔


มาตรา ๒๖๔  ผู้ใดทำ[1]เอกสาร[2]ปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือ[3]แต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใดๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือ[4]ลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่[5]น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำ[6]เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดกรอกข้อความลงในแผ่นกระดาษหรือวัตถุอื่นใด ซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่น[7]โดยไม่ได้รับความยินยอม หรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่นนั้น ถ้าได้กระทำเพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชน ให้ถือว่าผู้นั้นปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน




[1] เอกสาร กรณีไม่ถือว่าไม่เป็นเอกสาร ได้แก่ แบบพิมพ์เช็คที่ยังไม่ได้กรอกข้อความ เท่ากับ ยังมิได้ทำให้ปรากฏความหมายด้วยตัวอักษร ตัวเลข อันเป็นหลักฐานแห่งความหมายนั้น ,ภาพถ่ายห้องเครื่องใช้ ตู้เสื้อผ้า ของอื่นๆในบ้าน เป็นภาพจำลองไม่ได้ปรากฏความหมายอย่างใด ,การขูดลบเครื่องหมายเลขทะเบียนอาวุธปืนเป็นเพียงการทำลายเอกสาร ไม่เป็นการปลอมเพราะ ไม่มีเอกสารเหลือใหผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อ กรณีถือว่าเป็นเอกสารได้แก่  เอทีเอ็ม  ตั๋วพิมพ์รูปพรรณสัตว์
[2] ปลอมขึ้นทั้งฉบับ หลัก ไม่จำต้องมีเอกสารที่แท้จริงอยูก่อน และไม่ต้องทำให้เหมือนจริงก็ปลอมได้ หากเป็นการกระทำโดยไม่มีอำนาจทำ หากมีอำนาจทำไม่เป็นการปลอมแต่อาจเป็นเอกสารเท็จ ตัวอย่างปลอมทั้งฉบับเช่น ถ่ายสำเนาทะเบียนรถจากฉบับที่แท้จริงแล้วแก้ไขในช่องผู้ถือกรรมสิทธิ์ กรณีถือว่าเป็นเอกสารเท็จแต่ไม่เป็นเอกสารปลอมเช่น ข้าราชการเขียนเบิกค่าเดินทางอันเป็นเท็จ  , ลงชื่อฝากเงินโดยใช้ชื่อไม่ตรงนามที่แท้จริง เป็นเรื่องขอเปิดบัญชีต่อธนาคารโดยไม่ประสงค์จะใช้นามอันแท้จริง ของจำเลยเป็นผู้ฝากเท่านั้น ,สามีโจทก์จะโกงโจทก์ซึ่งเป็นภรรยา จึงได้ทำสัญญากู้กับจำเลยว่าเป็นหนี้เพื่อให้ภริยาช่วยใช้ เป็นเอกสารที่แท้จริงที่จำเลยและสามีโจทก์ร่วมกันทำขึ้น มิใช่เอกสารปลอม เป็นเพียงเอกสารเท็จเท่านั้น ,ขับรถไปชนคนตาย จึงทำสัญญาซื้อขายลงวันที่ย้อนหลังว่าได้ขายรถให้คนอื่นไปแล้วหนีผิด  ไม่เป็นปลอมเพราะ ทั้งผู้ซื้อผู้ขายได้ทำเอกสารชื้อขายโดยลงลายมือชื่อของทั้งสองจริง มิได้ปลอมลายมือชื่อผู้ใดแม้ไม่ตรงจริงก็ไม่เป็นเท็จ ๑๐๔๖/๒๖(ป) กรณีถือว่าเป็นเอกสารปลอม ได้แก่ เอาหนังสือเดินทางต่างประเทศมาแกะภาพถ่ายออก แล้วนำภาพของจำเลยปิดแทน แม้ภาพถ่ายไม่ใช่เอกสาร แต่เมื่อนำไปติดหนังสือเดินทาง ย่อมทำให้ความหมายที่แท้จริงเปลี่ยนไป การ กระทำเป็นการปลอมเอกสารราชการ ๑๒๒๗/๓๗ ,
[3] ทำเอกสารปลอมโดยการเติม ตัดทอนข้อความหรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ต้องมีเอกสารที่แท้จริงก่อน
[4] ลายมือชื่อไม่มีกฎหมายให้อำนาจลงลายมือชื่อแทนกันได้ การลงลายมือชื่อแทนแม้เจ้าของลายมือชื่อจะให้ความยินยอม ก็เป็นเอกสารปลอม แต่อาจไม่ผิดเพราะไม่เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ๔๑๓๕/๕๓
[5]น่าจะเกิดความเสียหาย กรณีไม่น่าจะเกิดความเสียหาย ได้แก่ ปลอมเลขท้ายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ถูกรางวัลเพื่อล้อกันเล่นระหว่างเพื่อนฝูง ให้เพื่อนเลี้ยงอาหาร ,ปลอมใบขับขี่เพื่อให้เพื่อหาเจ้ามือเลี้ยงสุรา ,ผู้อำนวยการโรงเรียนไปทำงานก่อนจำเลยลงเวลา ๘.๐๐ น.จำเลยไปทำงานที่หลังแก้เวลาของ ผอ.เป็น ๗.๔๖ เป็นการแก้ว่าผอ. มาทำงานเร็วกว่าเดิม และเขียนของตนเองว่า ๘.๐๐ น.เวลาที่จำเลยเขียนต่างไม่ถึงเวลาปฏิบัติราชการ การเขียนแก้จึงไม่อาจเป็นการโกงเวลาราชการ และไม่ทำให้ผอ.ถูกลงโทษทางวินัย,ตอนกู้ไม่ได้ลงนามพยานจะฟ้องจึงได้ลงนามพยานภายหลัง เพื่อนำมาเป็นหลักฐานฟ้อง ไม่ผิดปลอม๑๑๒๖/๐๕,รถทะเบียนหลุดหายนำแผ่นป้ายทะเบียนที่ไม่ใช่ของทางราชการ นำไปติดรถตรงตามทะเบียนไม่ผิด
[6] เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ได้แก่ เจตนาให้บุคคลอื่นหลงเชื่อ แม้คนอื่นไม่เชื่อก็ผิด
[7] ผู้ตายลงลายมือชื่อไว้ กรอกข้อความว่าให้ไปทำสัญญาซื้อขายที่ดิน  หลังจากผู้ตายตายจำเลยนำไปกรอกข้อความนำไปซื้อขายตามความประสงค์ของผู้ตายก็ผิด  เพราะ แม้เป็นการกระทำตรงตามความประสงค์ของผู้ตายแต่การมอบอำนาจยังไม่สมบูรณ์ เพราะเมื่อผู้มอบอำนาจถึงแก่ความตาย การมอบอำนาจก็สิ้นผล แต่จำเลยกับทำหนังสือมอบอำนาจให้มีผลสมบูรณ์โดยการกรอกข้อความการกระทำดังกล่าวไม่เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย แต่ก็อาจเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชน ผิดม.๒๖๔ ว.๒

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น