วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ม.๑๕๗


มาตรา ๑๕๗  ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ[1]หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่[2]โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



[1] หน้าที่  หมายความต้องมีหน้าที่และต้องเป็นหน้าที่โดยตรง  เช่น จำเลยแสดงตนเป็นตำรวจจับกุมผู้เสียหายแต่ไม่นำส่งสถานีแต่นำมากระทำชำเรา แต่จำเลยถูกสั่งพักราชการแล้ว ไม่มีหน้าที่ไม่ผิด๑๕๗ ,การเบิกความในฐานะพยานต่อศาลมิใช่หน้าที่โดยตรงของเจ้าพนักงานไม่ผิด ๑๕๗ แต่ผิด๑๗๗ ,การใช้ดุลพินิจโดยไม่ชอบเพื่อกลั่นแกล้งบุคคลอื่นผิด ม.๑๕๗ เช่นกัน รัฐมนตรีกระทรวงพานิชย์ สั่งพักราชการปลัดพานิชย์ นายกสั่งให้ยกเลิกคำสั่งไม่ดำเนินการสั่งทิ้งเวลาถึง ๗ เดือน จำเลยมีหน้าที่แต่ละเว้นผิดม.๑๕๗, อัยการจะสั่งฟ้องหรือไม่เป็นดุลพินิจ แต่เป็นเพียงการวินิจฉัยมูลความตามที่กล่าวหา หากใช้ดุลพินิจไม่ชอบผิด๑๕๗ ,เป็นพนักงานตำรวจร่วมเล่นการพนันในวงไพ่ ไม่จับกุมผู้เล่น ไม่ผิด๑๕๗ เพราะยังไม่ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยมีเจตนาพิเศษเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ร่วมเล่นหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
[2] นายช่างเป็นผู้ควบคุมงาน กำนันเป็นประธานตรวจรับ มีหน้าที่ในการตรวจรับงานตามสัญญาจ้าง โดยทราบว่าสัญญาจ้างยาว ๑,๓๕๐เมตร ไม่ไปตรวจแต่ได้ลงนาตรวจรับซึ่งถนนมีเพียง ๑,๐๒๔ เมตรเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทำเอกสารเท็จ ด้วยเจตนาพิเศษที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่อบต.เป็นการกระทำโดยทุจริต แม้จะได้แจ้งนำเงินมาคืนแล้วก็เนื่องจากอบต.เรียกคืน ผิด ๑๕๗ ๑๖๒(๑)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น